Sunday 15 January 2012

Touch for Women Burberry for women



Perfume Pyramid

From : http://www.fragrantica.com
Top Notes
Orange Blackberry Black Currant Cranberry CassiaRed Pepper Rose Oil
Middle Notes
Peony Tuberose Lily Raspberry PeachJasmine Lily-of-the-Valley
Base Notes
Vanilla Tonka Bean Green Almond Cedar


 top note :blackcurrant, cassis, cranberry, pink pepper corns 
middle notes. : Rose, lily of the valley and jasmine ร่วมกับกลิ่น peaches และraspberries. 
Base notes : vanilla, cedarwood และ oakmoss.



สำหรับตัวนี้ได้มาจากเพื่อนที่เคยสนิทกันมากๆๆ ที่ไปเที่ยวอเมริกา ฝากซื้อเค้ามานะคะ เป็นน้ำหอมขวดแรกๆ้เลยก็ว่าได้ (ขวดแรกเลยสิถ้าไม่นับที่ได้มาจากพี่สาว) เราได้มาขนาด 30 มล เป็น EDP นะคะ 
ราคาก็พันเดียวค่ะ เรียกว่า น่าจะขายเท่าทุนเลยหละ น่าเสียดายที่เพื่อนคนนี้ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว ไม่งั้นเราคงได้ฝากซื้อน้ำหอมได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวน้ำหอมปลอมแน่นอน

กลิ่นนี้ได้มาครั้งแรกแกะขวดนี่เราแกะซีลตรงก้นกล่องเลยนะคะ ในกล่องมีถุงผ้าแถมมาถุงนึง ซึ่งหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ คงจะหายไปตอนที่ย้ายบ้าน ฉีดตอนแรก กลิ่นมันทะแม่งๆ แต่พอเวลาผ่านไป จนกระทั่งเลิกงานเลยหละ( เราทำงาน12ชม/วันเลยนะคะตอนนั้น) กลิ่นยังคงอยู่ กลับบ้านไปดึกมาก ไม่ได้อาบน้ำ ตื่นมาอาบน้ำตอนเช้า กลิ่นก็ยังอยู่ (ฮ่าๆ ไม่อายเลย) 

เราเป็นคนที่ไม่ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้านะคะ จะฉีดตรงคอกับตรงหัวใจเลย แต่ว่า ด้วยความที่ติดกลิ่นนี้มาก ลองดมๆเสื้อก่อนซักดูในวันสุดสัปดาห์ โอ้โห ซกมกได้โล่ แต่กลิ่นฐานของเค้ายังคงติดอยู่ แน่นอนจริงๆ ชอบความทนของกลิ่นมากกกกก

แต่เมื่อได้มาพูดถึงตอนรีวิวตอนนี้ ซึ่งอาจจะบอกว่า มันเหมือนจะสายไปแล้วใช่ไหม แต่ก็ยอมรับว่า ตอนนี้เราจำสัมผัสกลิ่นเหล่านั้นไม่ได้แล้วค่ะ เพียงแต่ว่า ในบ้านยังมีเบอเบอรี่ ตัว woman ตัวแรกหลงเหลืออยู่ ตัวนั้นกลิ่นสุดท้ายก็คล้ายๆกับทัชนี่หละ แต่กลิ่นเปิดของทัช ดูเย้ายวนใจ และกลิ่นแรงมากกว่า  ซ฿่งถ้าถามกันแล้ว เราชอบทั้งสองกลิ่น แต่ชอบทัช มากกว่ามากๆ

เราใช้น้ำหอม ทัช 30 มล หมดภายในสามเดือน เรื่องกลิ่นจะบอกว่า ให้บรรยายคงบอกไม่ถูกนะคะ เพราะว่าความรู้สึกมันไม่เหลือแล้ว จะฉีดตอนพิมพ์ก็ไม่มีเหลือให้ฉีดแล้ว และไม่มีความสามารถพอที่จะซื้อด้วย ถึงแม้จะอยากได้มากๆ เพราะเรื่องปัจจัย และที่สำคัญ เรื่องของที่มีอยู่ในสต็อค ที่ต้องใช้กันอีกเป็นปีก็ยังไม่หมดเลยค่ะ 

และด้วยความชอบนี้เอง เราก็ติดต่อเพื่อนไปว่า มีอีกไหม เพื่อนก็บอกว่าไม่ได้ไปแล้ว  ก็เลยเริ่มตามหาจากอินเตอร์เน็ตค่ะ เข้าไปเว็บชมพู (บอกชื่อเว็บจะผิดมั้ย ) เอาเป็นว่าเว็บนี้มีทั้งของจริงแล้วก็ของปลอม ของที่เจอจากเว็บชมพูครั้งแรกนี่เป็นของที่ทำให้ร้าวรานหัวใจมาก มันคือของปลอมค่ะ

จริงๆดูด้วยราคาก็น่าจะรู้ว่าปลอมนะ เพราะขนาดที่เราซื้อมา 30 มล จากเพื่อนหิ้วมาให้ ยัง1000 บาทเลย แต่ราคาที่เราได้จากเว็บชมพู ซึ่งเค้าบอกมาว่าเป็นเทสเตอร์ ไม่มีกล่อง และไม่มีฝา และเค้ามีกำลังภายใน เลยได้ในราคาแค่ 1300 บาท เท่านั้น 

ภาพประกอบจาก burberry.com


โอ้โห เห็นราคาแค่นั้น และเราลองค้นประวัติการขายดู เค้ามีเว็บส่วนตัวของเค้า และมีลูกค้าประจำด้วย เป็นคนที่ืซื้อน้ำหอมเยอะมาก เรียกว่าเป็นเซ๊ยนน้ำหอมเลย ก็เป็นลูกค้าประจำของเค้า เราเลยมั่นใจมาก

พอได้ของมาส่ง แกะห่อ ฉีด น้ำตาแทบไหล T_T อืม มันไม่ใช่จริงๆ ถึงแม้ว่า ก้นขวดจะมีสติกเกอร์แบบเดียวกับที่แปะไว้บนของเรา ตัวเลขอะไรเหมือนกันทุกอย่างเราก็ลองค้นหาข้อมูลว่า ตัวเลขข้างล่างมันบอกอะไรบ้าง ก็ไม่ช่วยอะไรเลยค่ะ น้ำหอมกล่องแท้ไม่บอกรายละเอียดอะไร แต่จากเบอเบอรี่แท้อีกขวดนึง บอกอะไรได้ อันนั้นจะอยู่ในขวด เบอเบอรี่ลอนดอนนะคะ เอาไว้่ค่อยพิมพ์ในบล็อคหน้านั้นก็แล้วกัน

เลยส่งเมลไปถามว่า น้ำหอมกลิ่นมันแปลกๆ กลัวว่าจะเป็นของเก่าเก็บหรือเปล่าคะ เค้าก็บอกว่า เพิ่งเบิกจากห้าง ก็คิดอยู่นานว่าจะทำยังไง เพราะว่ามันไม่ใช่กลิ่นที่เราเคยรู้จักและดมมาเลย จะว่าลืมก็ไม่ใช่ เพราะยังมีก้นๆเหลืออยู่ให้ดม ก็ฉีดมันสองข้าง ข้างนึงของเพื่อน อีกข้างนึงของที่เพิ่งได้มา แล้วพิสูจน์กลิ่นกัน นัดไปเจอเพื่อน แล้วให้ดมดู ก็แยกออกเลยว่า ข้างนึงกลิ่นมันหายไปแล้ว อีกข้างกลิ่นยังอยู่ 

ก็เลยทำการขอคืนเงินไปค่ะ แต่ด้วยความเกรงใจ เราขอคืนเค้าไปแค่ 650 เอาแค่ครึ่งเดียว รู้อย่างนี้ตอนนั้นขอคืนสักพันนึงก็น่าจะดี หรือไม่ก็ขอเต็มจำนวน แต่ตอนขอคืนเงินแม่ค้าก็ไม่ว่าอะไร เป็นเรื่องที่ทำให้เจ็บหัวใจมาจนบัดนี้ และตอนที่เขียนบล็อคนี้ แม่ค้าคนนั้นก็ยังเอาขวดที่เราขายคืนมาขายในราคา 900 บาทด้วยนะคะ แถมขายออกซะด้วย กำไรจริงๆ 

เราก็ไม่รู้จะจัดการยังไง เราไม่มีความกล้าพอ และไม่ชอบมีเรื่องกับใคร แต่ปัญหาก็คือ เค้ามีลูกค้าประจำด้วย แต่ก็เคยมีน้องคนนึงในเว็บ ซื้อน้ำหอมจากเค้า และขอเงินคืนโดยประกาศหน้าเว็บนั่นหละ บอกว่ากลิ่นมันไม่เหมือนกับกลิ่นที่เค้าเคยดมมา อยากกล้าแบบน้องคนนั้นได้บ้างจริงๆ

เราเลยยังไม่กล้าซื้อน้ำหอมกลิ่นนี้กับแม่ค้าในไทยคนไหนอีก ถึงแม้จะอยากได้มาก นับเหตุผลได้อีกข้อแล้วเนอะ จากที่ว่าไม่มีเงินก็คือ กลัวว่าจะเสียความรู้สึกกับคนที่เคยซื้อกันมา และรู้สึกว่า ชอบแม่ค้าคนนี้มากๆนะ กลัวจริงๆว่าจะได้ของปลอมค่ะ 

ไปๆมาๆแล้วไม่ได้รีวิวกลิ่นเลยแฮะ เอาเป็นว่ากลิ่นมะลิในเบอเบอรี่ขวดนี้ และทุกขวดที่เคยผ่านมาในชีวิต ที่ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นของแท้นี่ เป็นกลิ่นที่ทำให้พิสูจน์ได้ว่า นี่คือเบอเบอรี่ของแท้ และเป็นกลิ่นที่ประทับใจมากค่ะ

และต้องบอกว่า ความรักในน้ำหอมกลิ่นนี้ เริ่มต้นมาจาก เบอเบอรี่ทัช ขวดนี้นี่เอง นี่เป็นการเริ่มต้นของการช็อปปิ้งออนไลน์ที่ทำให้ปวดหัวใจ และเป็นการเริ่มต้นของความต้องการที่บอกตัวเองไว้ว่า อยากจะมีน้ำหอมของเบอเบอรี่ทุกขวด(เอาแต่ของผู้หญิงก็แล้วกัน) มาไว้ในครอบครอง 

เพราะชอบมากจริงๆค่ะ เวอร์ดีมั้ย สรุปกลิ่น หมอ หรู เย้ายวนใจ ติดทน ถูกใจเรามากค่ะ ชอบมากกก


อันนี้ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตนะคะ 


Wednesday 11 January 2012

La rive in love


เริ่มจากขวดแรกเลยนะคะ ตัวนี้ ลารีฟ(คิดว่าอ่านถูกนะ) ได้มาจากแม่ค้าที่ซื้อขายกันประจำค่ะ เป็นน้ำหอมของโปแลนด์ แต่ข้างขวดจะบอกว่า ผลิตใน EU น้ำหอมยี่ห้อนี้ราคาไม่แพง ตัวนี้ซื้อเนื่องจากติดใจขวดแรก ซึ่งถือเป็นน้ำหอมที่โปรดปรานมากของเราเลย แต่ขวดที่ชอบมากๆยังไม่ได้ถ่ายรูป มาพูดถึงขวดนี้กันก่อนค่ะ


เราซื้อมาขวดนี้ 90 มล ราคาไม่้ถึงพันนะคะ คนขายบอกว่า กลิ่นจะคล้ายๆกับ Dior Jador ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า เจ้าJador มันกลิ่นประมาณไหน แต่ไหนๆก็พูดถึงแล้ว มาดูกันที่กลิ่นของน้ำหอมทั้งสองอย่างกันนะคะ


โน๊ตของ Jador นี่ลอกมาจากเว็บ Fragrantica


Perfume Pyramid

Top Notes
Magnolia Melon Peach Pear BergamotMandarin Orange
Middle Notes
Tuberose Plum Violet Orchid FreesiaJasmine Lily-of-the-Valley Rose
Base Notes
Musk Vanilla Cedar Blackberry
From : fragrantica.com

รู้สึกว่าส่วนประกอบจะเยอะเหลือเกินแฮะ ดูกันเอาเองก็แล้วกันว่าอะไร เพราะว่าเราก็ไม่รู้จักทั้งหมด แต่ว่ามีทั้ง ผลไม้ ดอกไม้ และของโปรดของเรา กลิ่นวานิลลา

ส่วนกลิ่นของตัวลาริฟ ยังหาในเว็บไม่เจอเลยค่ะ ฮ่าๆ แต่กลิ่นออกแนวดอกไม้ หวานๆ หอมๆ นุ่มๆ ติดทนในตัวเรานับได้ ราวๆ 6 ชม นะคะ ออกแนวยกดอกๆไม้มาทั้วงสวนสำหรับสาวหวานเลย  ไม่มีกลิ่นของผลไม้เจือปนมาเมื่อฉีดลงบนตัวเรา 

แต่ถ้าถามถึงความคุ้มค่า สำหรับคนที่ ชอบที่จะดม และยอมซื้อของไม่ติดตลาด แต่ไม่น่าจะใช่ของปลอมแน่ๆละก็ คุ้มค่ามาก 

แต่ไม่ใช่แนวเราค่ะ ตอนนี้ก็เลยส่งไปอยู่บ้าน เผื่อให้คนที่บ้านใช้ เพราะเราชอบกลิ่นแนวขนมมากกว่านะคะ แต่ถ้าใครมองหากลิ่นแนวดอกไม้ หวานๆ เย็นๆ ไม่ฉุนกึกติดจมูก แนะนำ (ราคาไม่แพงด้วยค่ะ )